Saturday, January 19, 2013

trip เชียงใหม่ Hot Winter 1

มูลเหตุเบื้องต้นสำคัญของการมาเยือนเชียงใหม่อีกทีในครั้งนี้ คือการประชุมที่ชุมชนสายลมจอย และการหาโอกาสมาเรียนรู้คอมพิวเตอร์เด็กน้อยกับพ่อโจ้ค่ะ เหตุผลอื่นๆก็คือการอยากเที่ยว และเยี่ยมเยียนเพื่อนฝูงของแม่ด้วย และกะว่าอาจจะขึ้นไปปายและเชียงรายด้วยถ้ามีโอกาส ว่าจะอยู่ซักราวๆเดือนนึงเผื่อเห็นดอกนางพญาเสือโคร่งกะเขามั่ง ขนกันไปสามชีวิต กับสัมภารกเต็มคันรถ ที่นอน หมอน มุ้ง หมอนข้าง ผ้าห่ม เสื้อกันหนาว เพียบ!!! แม่ลงทุนขับขึ้นไปเองเลย (ก็ไม่มีใครขับให้นี่นา) เกิดมาก็ไม่เคยไปไกลกว่าระยองอะ ก็เลยต้องแวะพักระหว่างทาง พอดีป้าใจ เพื่อนเก่าสมัยไปปฏิบัติธรรมที่ลพบุรี แกคิดถึง โทรถามอยู่ตลอดให้ไปหา ก็เลยไปพักกับแกซะเลย แต่จะว่าไปจากบ้านเราไปบ้านแกแค่สามชั่วโมงเอง ยังเหลือทางที่ต้องขับไปเชียงใหม่อีกไกลลลลลเลย


ไปไหว้หลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค ที่ตาคลี บ้านป้าใจ มุดใต้โต๊ะวางศพท่านด้วย นัยว่าเพื่อเป็นสิริมงคลค่ะ ป้าใจบอกว่าท่านมรณะภาพนานแล้ว แต่ศพไม่เน่าค่ะ




ทานข้าวแบบง่ายๆกันที่บ้าน ไม่น่าเชื่อว่าแค่น้ำพริก กับไก้ต้มจะอร่อยขนาดนี้ ถึงขนาดต้องขอป้าใจห่อไปกินต่ออีกวันเลยค่ะ


ป้าใจสอนตอนกิ่งต้นไม้ด้วย แต่ดูซันจะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่


ดอกว่านหางจระเข้ที่บ้านป้าใจ เพิ่งเคยเห็นค่ะ


วันรุ่งขึ้น ป้าใจขอติดรถไปงานรับปริญญาคนรู้จักที่พิษณุโลก เราเลยถือโอกาสแวะไหว้พระพุทธชินราชกันค่ะ



ออกจากพิษณุโลก 11 โมง ไม่น่าเชื่อว่าเราจะไปถึงเชียงใหม่ตั้งหกโมงครึ่งแน่ะ งงมาก ทำไมนานแท้ คืนแรกที่เชียงใหม่เราพักที่ guest house ชื่อบ้านทรงจำ ทานข้าวเย็นที่ สามเสนวิลล่า บรรยากาศริมน้ำปิง สวยงาม แต่อาหารแพงใช้ได้เลยค่ะ คืนนั้นมีแรงเงาตอนอวสานพอดี ปกติไม่ได้ดู แต่คืนนี้ได้ดูพอดี


เช้าวันแรก ที่บ้านทรงจำ



แวะไปทานสลัดที่ The Salad Concept ที่นิมมาน มาคราวนี้ไม่ค่อยประทับใจค่ะ รู้สึกเลยว่าไม่อร่อยเหมือนเดิม และพอดีช่วงนี้มีงาน NAP (Nimman Street Art & Promenade) พอดี เดินเล่นก็เพลินดี แต่ซันนี่ไม่เพลินด้วยอะ ร้องจะกลับท่าเดียว




คืนนั้นเราออกจากบ้านทรงจำ ไปพักกับน้าฝนที่สายลมจอยค่ะ ฝนทำโฮมสเตย์ชื่อบ้านสวนน้ำฝน กว่าจะไปถึงก็ทุ่มครึ่งได้ละมัง ทางเข้าสุดยอดมาก ใครไม่ไปเองไม่รู้ ตอนกลางคืนน่ะ

คืนนั้นนอนไปได้ซักพัก ก็เห็นที่ข้างฝาห้อง มีแสงไฟเล็กๆวูบๆวาบๆ สงสัยอยู่แป๊บนึง ก็คิดว่า เจ๋ง! มีหิ่งห้อยส่วนตัวด้วยแฮะเรา แต่พอดูไปดูมา เอ...ไฟตูดหิ่งห้อยอะไรจะสว่างปานนั้น มันสว่างมากจนเราชักไม่แน่ใจ ชวนกันเปิดไฟดูค่ะ พบว่าเป็นหิ่งห้อยจริงๆ แต่มันกำลังติดใยแมงมุมอยู่ และพยายามดิ้นรนสุดฤทธิ์ เจ้าแมงมุมก็กำลังขย่มอยู่ตรงนั้น เราตัดสินใจปิดไฟนอนต่อ แต่สักพักก็ทนไม่ได้ ชวนกันลุกขึ้นมาใหม่ ตัดสินใจช่วยเจ้าหิ่งห้อยน้อย กว่าจะเขี่ยลงมาได้ มีใยแมงมุมพันตัวเต็มไปหมด หมดทางที่เราจะแกะออกให้หมดได้ เล็กก็เล็ก มืดก็มืด (มีตอนนึงที่แม่พยายามเด็ดเศษใยออก มองก็ไม่ค่อยเห็น ตาไม่ดี ก่อนดึงก็ถามซันว่า ตรงนี้ใช่มั้ยใยมันเนี่ย ซันเสียงหลงบอกว่า แม่! นั่นหัวมัน! ...เลยได้แต่ถอดใจ เอามันไปปล่อยไว้ที่ระเบียงค่ะ ได้โอกาสสอนลูกให้วางอุเบกขา แต่ตื่นเช้ามาเจ้าหิ่งห้อยน้อยหายไปไหนไม่รู้ เหลือแต่กระดาษทิชชู





ช่วงวันเฉลิมฯ เราไปเที่ยวภูพิงค์กันค่ะ เสียดายรถพ่อโจ้ แม่โอ๋เสียกลางทาง เลยได้แต่ฝากเด็กๆขึ้นมา ซันได้เจอเพื่อนๆแฮปปี้มากค่ะ เข้ม คราม พี่ติณณ์ (อายุ 12 ตัวสูงปรี๊ดดดดด แม่แก้วเลี้ยงดีจริงๆ)


sunny and the gang








น้าเจผู้แสนดี


ลงชื่อถวายพระพรกันด้วย


บรรยากาศแจ่มใส ดอกไม้สวยๆ








เสร็จแล้วก็ไปทานข้าว กินติมกัน หย่อยๆ



อีกวัน เราไปเที่ยวสวนพฤกศาสตร์สิริกิติ์ที่แม่ริมกันค่ะ เค้ามีงาน ให้เข้าฟรีพอดี





ซันบอกว่าแบบนี้เรียกว่าหน้า epic face!?!?



วิวสวย ฟ้าใส ดูต้นไม้ ดอกไม้ มีโรงเรือนต้นไม้ประเภทต่างๆมากมาย






กล้วยไม้ต่างๆ และการจัดสวนแนวตั้ง









สัปปะรดสี แสนสวย


ต้นไม้กินแมลงและอื่นๆอีกมากมาย





ต่อไปเราก็ไปขึ้นม่อนแจ่มกันค่ะ เคยไปคราวที่แล้วช่วงกันยา ประทับใจมาก แต่มาคราวนี้คนเยอะมาก ไม่สวยสงบเหมือนเดิมอีกแล้ว เสียดายจัง




















เราได้ไปที่น้ำตกห้วยแก้วกันด้วยนะคะ ที่นี่เมื่อก่อนนี้ยิ่งใหญ่มาก ปัจจุบันแทบไม่เหลือเค้า แทบไม่มีคนมาเที่ยว ซันนี่กินไก่ย่างอย่างเอร็ดอร่อยที่นี่ด้วย





แถมเรื่องราวเก็บตกไว้ตรงนี้อีกเล็กน้อย

แมลงทอดหน้าทางเข้าน้ำตก


ตอนไปทานข้าวที่ปันปัน ร้านอาหารมังสวิรัติของพี่โจ โจน จันได ที่วัดสวนดอกค่ะ


เจ้าหมาน้อยโชว์หลับ (จริง) ที่ถนนคนเดินท่าแพ (สงสัยโดนให้กินยานอนหลับแหงเลย)


อันนี้ถ่ายที่หน้าบ้านแม่เช็ง พอดีมีพิธีแห่ศพค่ะ แฟลร์ที่ออกมา สวยน่าทึ่งมากๆ ตอนมองด้วยตาเปล่าไม่มีค่ะ



ต่อตอน 2 นะจ๊ะ

No comments:

Post a Comment