Thursday, June 30, 2011

รากอะไรเนี่ย

วันก่อนล้างบ่อเก็บนำ้ใต้ดินในบ้านซึ่งไม่ได้ล้างมาเป็นปี เจอเจ้านี้ทั้งยวงเกาะอยู่ที่ผนังบ่อ เป็นรากอะไรสักอย่างที่ยังสดสะอาดและมีชีวิต ออกอาการมึนเล็กน้อย ไม่รู้มันมาได้ไงเนี่ย
 

จักจั่นลอกคราบ

ออกไปเดินเล่นรอบหมู่บ้าน น้องซันตาไวมาก เจอจักจั่นกำลังลอกคราบพอดี ถ้าเป็นตอนกลางวัน แล้วถ่ายด้วยกล้องวิดีโอ จะเห็นตอนมันกำลังยงโย่ยงหยกออกมาอยู่เลยค่ะ

Waldorf Asian Teacher Training 2011

ปีนี้ได้มีโอกาสเข้าร่วมอบรมแนวการเรียนการสอนแบบวอลดอร์ฟ ประทับใจมากค่ะ จะพยายามนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้กับลูกเท่าที่จะทำได้ เน้นแนว "ศิลปะให้ชีวิต" ถ่ายรูปมาไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นการเรียนรู้หลักการ วิธีการ ในการผสมผสานกาย อารมณ์ และความคิด hands heart head ในการเรียนการสอนของวอลดอร์ฟ ขอบคุณโรงเรียนรุ่งอรุณที่เอื้อเฟื้อสถานที่ คณะครูจาก Holland และไทย และทีมผู้จัดทุกท่านมากค่ะ


การใช้สี ชั้น ป.3 และ ป.4


 Chalkboard Drawing


 สีนำ้


 งานปั้นและงานถัก Knitting


Drawing


No-Outline Drawing


Form Drawing


ถ่ายรูปร่วมกัน


ยังมีการเรียนรู้ด้านดนตรี เกมส์การเคลื่อนไหวต่างๆ ซึ่งสนุกมากมาย รวมทั้งได้เพื่อนใหม่ที่น่ารักหลายคน ปีหน้าเจอกันใหม่จ้า

trip สวนรถไฟ

ไปขี่จักรยานเล่นที่สวนรถไฟ ชมสวนผีเสื้อ นั่งปิคนิค กินขนม ดูนก ดูแมลงปอ บรรยากาศร่มรื่น เขียวขจี เหมาะกับการพักผ่อนสบายๆจริงๆค่ะ ไม่บรรยายมาก ดูรูปเอาอย่างเดียวเลยแล้วกัน (แทรกรูปที่สองให้ดูสายไหมที่เห็นในรูปแรก ถุงที่ไม่ได้กินแล้วมันหดเหลือแค่เนี้ย)

trip สมุทรสงคราม บางน้อย อัมพวา

ไปเที่ยวเล่นเรียนรู้กันที่ สมุทรสาคร อัมพวา กับเพื่อนๆวอลดอร์ฟ นำทีมโดยแม่จ๊ะกะแม่ปิ๋ม เปิดฉากกันที่กะลาบรรเลง ซึ่งเป็นแหล่งทำเครื่องใช้ต่างๆจากกะลามะพร้าว โดยครูบรรเลงซึ่งฝีมือและแนวคิดไม่ธรรมดาเลยค่ะ


บทกวีประกอบงานชุดนี้ค่ะ....คชสารใช้เขา เต่าหาเบี้ย เหี้ยได้ยศ กฎล้มเหลว คนเลวได้ช่อง แซ่ซ้องหมู่โจร หัวโขนกาฝาก หน้ากากผู้ดี อัปรีย์วัฒนธรรม คนระยำจะปกครองบ้านเมือง แปลกันเอาเองเน้อ


ทานอาหารกลางวันกันริมนำ้ บรรยากาศไม่เลวเลยทีเดียว



ไปพักกันที่บางน้อย พร้อมทำกิจกรรมสานใบมะพร้าว สนุกและสวยงามมากจ้า




บรรดาพ่อแม่ทั้งหลาย


นั่งสานกันอย่างเมามันทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยล่ะ



ไปเที่ยวที่ตลาดนำ้อัมพวากันด้วย แต่เป็นวันธรรมดา เงียบสงบไปอีกแบบ






ลืมบอกไปว่าแถวบางน้อยที่เราอยู่ มีโรงพิมพ์เล็กๆ จิ๋วๆ อยู่แห่งนึงที่ยังใช้การเรียงพิมพ์ด้วยมือทีละตัวๆ และใช้แรงคนล้วนๆเลย คุณลุงเจ้าของแก่มากแล้ว แต่ก็ยังยืนหยัดที่จะทำงานนี้ต่อไปเรื่อยๆ  


แล้วก็ไปกันต่อที่บ้านพญาซอ แหล่งทำซออู้ใหญ่ฝีมือเยี่ยม มีตั้งแต่คันละไม่กี่พัน ไปจนเรือนหมื่นเรือนแสน ซึ่งปรากฎว่าลองสีดูแล้ว ไม่มีใครฟัง (ออก) อิอิ




เราไปแวะที่เตาทวี ที่ทำนำ้ตาลมะพร้าว ได้ดูกระบวนการทำทุกขั้นตอน และชิมนำ้ตาลสดหวานหอมชื่นใจ



หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับ แต่เรายังไม่กลับ ไปแวะดูพิพิธภัณฑ์แมวไทยกันก่อน มีแมวตาสองสีด้วย สวยมาก แต่มันเป็นลักษณะด้อยของมันนะจ๊ะ คุณลุงเจ้าของที่นี่น่านับถือมาก แกมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะอนุรักษ์พันธ์แมวไทยแท้ๆไว้ ไม่ให้สูญหายไป โดยเราสามารถร่วมสนับสนุนได้ด้วยการอุดหนุนของที่ระลึก และบริจาคเงินช่วยเหลือได้โดยตรงค่ะ






เสร็จจากเจ้าเหมียวก็ไปเที่ยวค่ายบางกุ้ง ชมหลวงพ่อในโบสถ์ต้นไม้ และไปอาสนวิหารแม่พระบังเกิด น่าเสียดายที่มาช้าไปนิด เข้าข้างในไม่ได้แล้ว ได้ยินมาว่าสวยงามมากทีเดียวเชียวล่ะ






ทริปนี้นัดพี่เชษฐไว้ด้วย ที่สถาบัน​การ​เรียนรู้​เพื่อปวงชนหรือมหา'ลัยชีวิต บรรยากาศดีมากๆ และไปทานข้าวเย็นมื้ออร่อยกันก่อนกลับบ้าน ขอให้เจ้าภาพจงเจริญค่าาาา