Tuesday, January 10, 2012

trip ปราจีน-เขาใหญ่-วังน้ำเขียว 3

จากตอนที่แล้ว เราเที่ยวเขาใหญ่-ปากช่อง กันแล้ว ตอนนี้กำลังจะไปทางปักธงชัย เพื่อไปที่จิมทอมป์สันฟาร์มค่ะ น่าเสียดายที่คุณจิม ไม่มีโอกาสเห็นความสำเร็จของสิ่งที่แกปลุกปั้นมา เนื่องจากหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ที่มาเลเซีย เมื่อนานมาแล้วค่ะ เรามาที่นี่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก และบอกได้เลยว่าไม่ผิดหวังจริงๆ งานจัดได้มืออาชีพมาก ประทับใจสุดๆ เจ้าหน้าที่ก็น่ารัก อธิบายทุกอย่างที่อยากรู้ อากาศดี ดอกไม้สวย ความรู้เพียบ ปลื้มจริงๆ ยกนิ้วโป้งให้สองนิ้วเลยค่ะ ที่นี่จะเปิดให้ชมเพียงปีละครั้งเท่านั้นค่ะ แนะนำว่าใครที่ยังไม่เคยมา ห้ามพลาดเด็ดขาด มาช่วงกลางๆได้จะยิ่งดี เพราะทุกอย่างเข้าที่ ดอกไม้ก็บานเต็มทุ่ง งามซะ....

ได้ยินมาว่าเขามีอีกฟาร์มที่เปิดตลอด เป็นค่ายเรียนรู้วิทยาศาสตร์ธรรมชาติสำหรับเด็กด้วย อยู่ถัดไปไม่ไกลค่ะ ต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมซะแล้ว

ด้านหน้ามีฟักทองยักษ์ (ปลอม) ค่ะ



มีมุมที่จัดไว้ ชมบรรยากาศและถ่ายรูปสวยๆมากมาย





มีบริการนั่งรถชมวิว อ่างเก็บน้ำ ภูเขา ทุ่งดอกไม้ ทั้งทานตะวัน คอสมอส ปอเทือง และอื่นๆ







ถ่ายรูปเยอะมาก เพราะของเขาสวยจริง อะไรจริง

























แผนที่แสดงโซนต่างๆ ตรงจุดจอดขึ้นลงรถราง


โซนวัฒนธรรมอีสาน มีเล่นดนตรีกันให้ฟังสดๆ เข้าบรรยากาศมากค่ะ


ทุ่งนา และของเล่นไม้ของเด็กๆ



ที่ต่อขา กลายเป็นปืนสำหรับซันนี่


ส่วนแสดงการปลูกหม่อน เลี้ยงใหม่ ได้ความรู้มากมาย




อิ้วฝ้าย ตีฝ้าย ปั่นด้าย 



อยู่ในลอมฟาง


สาธิตการเขียนหนังสือใบลานแบบโบราณ จารด้วยเหล็กแหลม ใช้น้ำมันต้นยางนา และเขม่าจากหม้อที่คว่ำ ตัวหนังสือพวกนี้ติดคงทนได้เป็นร้อยเป็นพันปี ไม่ลบเลือนง่ายๆ โชว์เทคนิคการตีเส้นบรรทัดและที่วางหนังสือแบบโบราณเรียกว่า กากะเยีย ทำด้วยไม้แปดอันร้อยไขว้กัน น้องซันได้ใบลานเขียนชื่อสกุลมาอันนึงด้วย 20 บาท เท่านั้นค่ะ






ที่สรงน้ำพระ ตักน้ำเทใส่รางพญานาค น้ำจะไหลมาตกลงรดองค์พระเองค่ะ


 ผูกข้อมือโดยผู้เฒ่าผู้แก่ เป็นสิริมงคล


เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆของทางอีสาน


ทางเดินร่มรื่นสวยงาม




สิม (โบสถ์) กลางน้ำ ภายในมีองค์พระประดิษฐานอยู่




สาธิตสาวเส้นไหม ใช้ไหมกี่หลอดกันเนี่ย


ดอกไม้อีกแล้วจ้า








ฝีมือช่างภาพส่วนตัว หน้าแม่ตรงแต่ทุกอย่างเอียงหมด


มีพืชผักสวนครัว หน้าตาแปลกๆเยอะแยะมากมาย




ทางเดินต้นสน




ปิดท้ายด้วยวิวงามๆของทุ่งปอเทือง บ๊ายบายจิมทอมป์สันฟาร์ม แล้วเจอกันใหม่น้าาาาา



จากที่นี่เราจะเดินทางไปวังน้ำเขียวค่ะ แต่กว่าจะออกได้ก็เย็นแล้ว ที่พักก็ยังไม่มีเลย ลองโทรไปที่บ้านฮักกันที่เคยเห็นในเน็ต โอเคว่างค่ะ ตกลงพักที่นี่แหละนะ

เคยได้ยินว่าที่วังน้ำเขียวอากาศดี โอโซนอันดับเจ็ดของโลก อยากรู้จังว่าใครจัดอันดับ และที่ 1-6 นี่มันที่ไหนกันนะ ไม่เห็นมีใครบอกได้เลย

รุ่งเช้าที่บ้านฮักกัน อากาศเริ่มอุ่นขึ้น ออกมาถ่ายรูปซะหน่อย









เอาล่ะ วังน้ำเขียวมีอะไรน่าเที่ยวบ้างน้า ไปเริ่มที่งาน Flora Park ละกัน

สายแล้ว อากาศร้อนใช้ได้เลย งานไม่มีอะไรน่าสนใจเลยค่ะ ราคารวมค่ารถรางแล้วเท่าจิมทอมป์สันฟาร์มเลย (100.-) แต่เราดูได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ลาแล้วค่ะ เราว่างานนี้ผู้จัดสอบตกอย่างแรง
















ต่อมา เราก็มาที่ร้านกาแฟยอดฮิต A Cup of Love มีชมแกะ 50 บาท ถ้าจะป้อนนมด้วยก็อีก 20.- ถือว่าแพงมาก และไม่มีอะไรน่าสนใจเช่นกัน ไม่รู้คนมาทำอะไรกัน ถ่ายรูปลงเฟสมั้ง (เราก็ขอ in trend กับเค้าบ้าง ไม่เคยมาเลย) เดี๋ยวอีกหน่อยไม่รู้จะเป็นไงนะคะ ตอนนี้เห็นคนวังน้ำเขียวทะเลาะกับป่าไม้เรื่องเอกสารสิทธิ์ที่ดินอยู่น่ะ







เสร็จจากที่นี่ก็ไปเที่ยววังน้ำเขียวฟาร์มที่ผลิต Mr. Mushroom กันค่ะ มีเจ้าหน้าที่พาเยี่ยมชมและอธิบายเกี่ยวกับเห็ด น่าสนใจทีเดียว เห็ดบางอย่างเช่นเห็ดหลินจือ ออกดอกถุงละดอกในสามเดือน และได้แค่สองรอบเท่านั้น มิน่าถึงแพงนัก ที่นี่มีเฟรนช์ฟรายเห็ดออรินจิด้วย รสชาติไม่เลวเลยค่ะ ซื้อมาทำกินเองที่บ้านสองถุงใหญ่เลย





ที่สุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพฯวันนี้ เราไปยิงเมล็ดมะค่าปลูกป่ากันที่ผาเก็บตะวันค่ะ เสียดายที่ไม่ได้มาตอนเย็นๆจะได้ดูพระอาทิตย์ตก ไม่อยากกลับค่ำค่ะ มืดๆขับรถลำบาก ตายิ่งไม่ค่อยดีอยู่ด้วย

ที่นี่เขาจะมีเมล็ดมะค่าขาย กระบอกละ 10 บาท ให้ยืมหนังสติ๊กฟรี สนุกดีค่ะ








ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทับลาน นี่คือกล้าต้นลาน และต้นลานที่เอาใบมาทำจักสานต่างๆ เพิ่งเคยเห็นรู้จักต้นลานนี่ล่ะค่ะ



เป็นอันว่าสิ้นสุด trip (ก่อน) ปีใหม่ของเราแต่เพียงเท่านี้ค่ะ ได้เวลากลับกรุงเทพฯไปรอเคาท์ดาวน์บนเตียงแล้ว เย้!!! บายจ้าาาาา

No comments:

Post a Comment