Tuesday, April 24, 2012

trip ปายกลางเมษา

หลังเสร็จจากค่ายลูกนกที่เชียงใหม่ ก่อนสงกรานต์เล็กน้อย เราก็ขึ้นไปเยี่ยมแม่บ๊องที่ปายกันค่ะ ไม่เคยมาปายเลย ตั้งแต่ที่ยังไม่ดัง จนเขาฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมือง จนจะเลิกฮิตแล้ว เราถึงมีโอกาสมาเที่ยวที่นี่เป็นครั้งแรก ต้องขอบคุณแม่บ๊องมั่กๆจ้า :)

แม่บ๊องใจดีให้อยู่ที่เรือนนี้ แต่เจ้าตัวกินนอนอยู่ในเรือนออฟฟิสข้างล่างริมแม่น้ำปายอีกหลังหนึ่ง (ไม่อยากจะบอกว่า กลางคืนไม่รู้อะไรขย่มอยู่บนหลังคา สนั่นหวั่นไหวท้างงงงงคืนสินั่น...)




ทางเข้าบ้านพุทราร่วงเต็มไปหมด เสียดายยยยย

 
ขวดดักด้วงของเด็กๆ เก่าแล้วน้ำเข้าไปขัง




 วัดพระธาตุแม่เย็น อยู่ไม่ไกลจากบ้าน แวะไปไหว้พระซะหน่อย



 ทางขึ้นแต่เราใช้ลง อิอิ


วิวงามๆจากบนวัด



ร้านอร่อย fruit factory ไปกินกันสองรอบแน่ะ


 หยั่งเชิงแม่น้ำปายหน้าบ้าน เย็นฉ่ำสะท้านใจเลยทีเดียวเชียว




ร้อนๆนั่งชิลริมน้ำ เล่นน้ำปายเย็นชื่นใจ




วันรุ่งขึ้นเพิ่งพบว่าบ้านแม่บ๊องถูกมดแดงบุก ไข่มดแดงเต็มขวดเลย (เอ่อ...จริงๆรูปนี้ท่าจะกลับหัวแฮะ แต่เอาเหอะ ขี้เกียจแก้แระ)


ขนกันขันแข็ง


กิ้งก่าหัวสีน้ำเงินตัวนี้แม่บ๊องภูมิใจนำเสนอมาก เห็นกรงเล็บปะ



สายๆไปเที่ยวตลาดนัดปาย ใหญ่มาก ของขายเยอะแยะ ราคาย่อมเยา


มาเป็นคันรถ สะดวกดีค่ะ


โฉมหน้าพี่บ๊อง (จุ๊ๆอย่าเอ็ดไป แกไม่ยอมให้พิณเรียกพี่ อิอิ) หญิงเหล็กหัวใจแกร่งเกินร้อย ทำงานช่วยเหลือเด็กในชนบทห่างไกลให้ได้มีชีวิตที่ดีอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย แถมทำอย่างมีความสุขมากๆ เพราะรักในสิ่งที่ทำจริงๆ ขอชื่นชมจากใจจริงๆค่ะ


กับถั่วแปหล่อขึ้นชื่อ กรุบกรอบเค็มๆมันๆ (และไอศกรีมโฮมเมดแสนอร่อย) คือว่าเมืองนี้เค้าจะขึ้นชื่อเรื่องถั่ว งา หอม กระเทียม ประมาณนี้จ้า


ไปธารน้ำร้อนท่าปายด้วย แช่เท้าร้อนๆกลางเดือนเมษาให้อุ่นๆเล่น อิอิ ปกติจะมีธารน้ำเย็นอีกสายหนึ่งไหลมาบรรจบกันเป็นน้ำอุ่นพอดีนะคะ amazing มากๆ แต่ตอนนี้ธารน้ำเย็นแห้งสนิท แช่ทีเท้าแทบสุก หุหุ


ตะไคร่หรือสาหร่ายก็ไม่รู้ สีเขียวมรกตสวยสดเชียว


บ่อน้ำร้อน 80 องศา ต้มไข่สุก



แวะสะพานประวัติศาสตร์และวิวจากสะพาน




เข้าใจทำมาหากินจริงๆ จอดทิ้งไว้เฉยๆก็ได้ตังค์ ไม่ต้องขี่ให้เมื่อยตุ้ม


ทางขึ้นกองแลน หรือแคนยอน ปาย


เสียวตก อึ๋ยส์...



ซิ้มมาเองจริงๆรูปนี้ 555


เจ้าต้นใบแดงเดี่ยวนั่นเท่ห์มากๆ


ทางเดินวัดใจ น้องซันเดินไปได้ไม่กี่เมตรก็ต้องร้อง ถอย...ดีกว่า ไม่อาวววว...ดีกว่า ดีแล้วล่ะ บางช่วงนี่อันตรายจริงๆค่ะ ถ้าพลาดก็หมดกัน




งานนี้ ขอไม่เสี่ยงค่ะ 



ชีวิตน้อยๆผลิบานท่ามกลางความร้อนแล้ง



อันนี้มานั่งชิลชมวิวยามเย็นที่ร้านกาแฟเจ้าดัง แต่จำชื่อไม่ได้แล้วอะ โทดที :b โอ๊ะ! เหลือบเห็นบนป้ายในรูป coffee in love นั่นเอง



บ้านเจ้าของร้าน น่าอยู่มากกกก



ดอกกาแฟ เพิ่งเคยเห็นอะ


เม็ดกาแฟสุกสีแดงสด รสออกหวานๆ ต้องคั่วก่อนถึงจะมีกลิ่นกาแฟนะจ๊ะ


flower roof งามๆ


ค่ำๆก็ไปเดินเล่นที่ถนคนเดินซะหน่อย คนน้อยเดินสบาย แต่ร้านรวงก็น้อยตามไปด้วยอะ
 

น้ำกระบอกที่ลีลาคนขายเหลือกินจริงๆ


 ร้านรวงสวยๆบนถนนคนเดิน


คุณคนนี้มาเปิดการแสดงเปิดหมวก น่าสนใจมากๆๆๆๆ



ทำไปด้ายยยย




แจ็ค สแปโรว์มาเมืองไทย


อาหารเช้าที่ร้านไข่กระทะ อร่อยดีค่ะ มีชีสพายมะม่วงด้วย อร่อยดี แต่แพงไปนิด


 มีขายรูปภาพ งานศิลปะต่างๆด้วย


กินเสร็จก็ตีปิงปองกับพี่บางกอก ลูกเจ้าของร้านซะเลย



แม่บ๊องพานั่งรถเที่ยวชมวิวด้วยค่ะ แวะดูวิวที่กิ่วลม



ไปเที่ยวหมู่บ้านจีนยูนนาน สันติชล แวะวาดภาพ(ไม่)เหมือนซะหน่อย น้องซันไม่ยอมวาด แม่เลยวาดคนเดียว 200.-





ว้าย! นี่หน้าชั้นหรือนี่...



ต้นไม้ยักษ์ กับรวงผึ้งมากมาย และชิงช้าโล้สไตล์ยูนนาน เอกลักษณ์ของที่นี่





ใต้ป้อมชมวิว มีร้านสุขภาพ ขายชาสมุนไพรจีนมะขามป้อม อร่อยชื่นใจได้ประโยชน์ค่ะ


กลางวันทานอาหารกันที่ร้านนี้ อร่อยมาก โดยเฉพาะเหลียงฟั่นทอดทำจากถั่วเหลือง และก๋วยเตี๋ยวยูนนาน เด็ดๆๆๆๆ


ตกเย็นแม่บ๊องพาเดินเล่นในหมู่บ้าน เก็บลูกตะขบกิน โหย....หวานหอมอร่อยอย่าบอกใคร



พอวันที่ 13 เราก็ลาแม่บ๊องและเมืองปายกลับเชียงใหม่กันค่ะ มาเล่นสงกรานต์กันที่เชียงใหม่กับครูโกะ สนุกมากๆ เป็นครั้งแรกอีกเหมือนกันที่มาฉลองปีใหม่เมืองกัน คนเยอะมาก เดินจากตึกครูโกะออกมาก็ถึงคูเมืองเลย เดินเล่นน้ำไปเรื่อยๆจนถึงประตูท่าแพ หนำใจแล้วก็เดินกลับมา อาบน้ำ ทานข้าว ค่ำๆคนซาแล้วก็ว่าตุ๊กๆไปส่งที่โรงแรมยูเรเซีย ใกล้สถานีรถไฟ รุ่งขึ้นก็พักผ่อนสบายๆ ออกไปทานข้าวและซื้อหมูยอฝากคุณยายที่วนัสนันท์ ก่อนกลับกรุงเทพฯตอนเย็น ม่วนอกม่วนใจ แล้วเจอกันใหม่โอกาสหน้าจ้า :)