Sunday, July 22, 2012

trip ทุ่งแสลงหลวง

หลังจากกรุงเทพฯถูกฝนถล่มอยู่ 3-4 วันติดต่อกัน ฟ้าก็เปิดพอดีในวันศุกร์ที่ 13 กค. ที่เราจะไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เขาค้อ จ.เพชรบุรณ์กับเพื่อนๆกลุ่มควบกล้ำธรรมชาติค่ะ ออกเดินทางแต่เช้า แวะกินไก่ย่างวิเชียรบุรี ถึงที่หมายเที่ยงกว่าๆค่ะ บรรยากาศระหว่างทางว่าสวยแล้ว แต่วิวจากบ้านพักเนี่ย แจ่มมากๆเลยค่ะ

วิวทางขึ้นเขา น้องซันแวะทำธุระเล็กน้อย




มุมมองจากระเบียงบ้านค่ะ







ระหว่างรอบ้านอื่นๆมากัน ซันส่องเจอกวางด้วยค่ะ




เริ่มสำรวจรอบๆ เจอเจ้าตัวนี้ด้วย หนอนผีเสื้อกลางคืน มดยักษ์ และน้องเคนเจอด้วงดินขอบทองแดง แมลงหายาก ที่อยู่ในรายการคุ้มครองของไทยด้วยค่ะ





เย็นนั้นเราทำอาหารทานกัน และรอหมูชะมวงจากบ้านพ่อแป๋ง แม่โหน่ง ที่รถเสีย หม้อน้ำพัง เลยมาช้าสุดเลย ในขณะที่เด็กๆขี่จักรยานเล่นรอบๆบ้านพัก




ตกค่ำ น้าเกรียง ผู้เชี่ยวชาญธรรมชาติของเราก็ตั้งวงเล่านิทานกับเด็ก และขึงผ้าล่อแมลงด้วย


เจออีกหลายตัว




คืนนั้นฝนตก วันรุ่งขึ้น เราจะขี่จักรยานไปที่ทุ่งนางพญากันค่ะ เส้นทางจึงวิบากเล็กน้อย ตามโปรแกรมคือ 14 กม. ไปกลับก็ 28 กม. ว่ากันว่าเป็นเส้นทางขี่จักรยานชมธรรมชาติที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว เด็กๆและผู้ใหญ่ตื่นเต้นกันมาก มีลุ้นว่าจะไหวรึเปล่าหนอ

ซันพร้อมแล้วคับ


แก๊งสาวๆจอมอึด 


รวมพลทั้งคนทั้งรถ กว่าจะได้ออก แดดชักแรงอะ


งานนี้สาวๆชนะเลิศ เห็นนิ่มนวลแบบนี้ เธอทั้งหลายคือผู้พิชิต 28 กม.ตัวจริงค่ะ


เมื่อไหร่จะไปซะทีค้าบบบบ ซันอยากไปแล้ววววว


เอาล่ะ ทุกคน ไปกันด้ายยยยย (ตกลงไปทางเดียวกันป่าวเนี่ย)


ไปโลดดดด



มีรถตามเก็บตกด้วยจ้า


เจอรอยเท้าเก้งด้วยนะ


หลังจากขี่มาได้สักพักใหญ่ ซันขอมานั่งรถพักเดี๋ยวนะครับ


เอาล่ะ ขอลุยอีกซักตั้ง คราวนี้ซันปั่นยาวไปถึงยอดเลย


ใครชอบโหดก็ลุยกันไป ใครใคร่ชิลก็เดินกันมา สบายๆ


ดอกกระเจียวขาว


ถึงจุดชมวิวระหว่างทางแวะพักเติมพลังกันหน่อย



ดอกโคลงเคลงหนู




ไลเคนผักกาด ฝอยลม และสารพัดเห็ด อากาศที่นี่ดีมากๆ ไม่งั้นไม่มีทางมีฝอยลมแบบนี้ค่ะ









กล้วยไม้นางอั้วตีนกบ แมลงปอหนวดยาว แมลงทับขาเขียว และเจ้าทากตัวน้อย





บางช่วงก็เละสุดๆ มีชานมเย็นยั่วน้ำลายด้วย


แต่หลายๆคนก็ฟันฝ่าไปจนถึงที่หมาย


 ชื่นชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ อย่างใบนี้ถูกหนอนเจาะได้งามจริงๆ


ลวดลายบนเปลือกไม้


ในที่สุด เราก็มาถึงลานด้านบน เด็กๆหิวจนตาลาย น้องซัน พี่ซี และข้าวปุ้น คือกลุ่มแรกที่แซงหน้าไปก่อน และไม่มีอาหารใดๆติดตัว แม่เหมียวขับรถตามไปเจอนั่งนอนหมดสภาพมอมแมมกันอยู่กลางแดด และพร้อมจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้า






บนนี้เจอสิ่งที่น้าเกรียงบอกว่าเป็น ดอก ของไลเคนส์ด้วย


ดอกไม้กินแมลงอย่างปัดน้ำ เล็กจิ๋วๆ ถ่ายยังไงก็ได้แค่นี้อะ สงสัยกินได้แต่ลูกมด


จากนั้นเราก็กลับลงมากันค่ะ บางคนก็ขี่จักรยานกลับ สุดยอดจริงๆ โดยเฉพาะเด็กๆ ช่างมีพลังงานล้นเหลือ ทั้งอึด ทั้งทน กันจริงๆ เก่งมากๆ ส่วนสามหนุ่มที่ซิ่งมาก่อนหน้าใครนี้ ยืนยันหนักแน่นว่า ขอนั่งรถกลับจ้า...

มาถึงบ้านพัก ก็อาบน้ำ พักผ่อน ทานข้าวเย็นกัน รุ่งขึ้นอีกวัน มีคนส่องกล้องเห็นกวางอีก เลยมาตั้งเลนส์เทเลดูกันใหญ่ มาเป็นฝูงเลยค่ะ 5-6 ตัวได้ และเด็กๆก็ไปเก็บเห็ดมาทำอาหารกันด้วยจ้ะ




สายๆ เราก็ออกเดินทางกลับกัน แวะเที่ยวห้วยน้ำเข็กด้วย พอดีช่วงนี้ไม่มีแมงกะพรุนน้ำจืด เลยอดดูกัน แต่ก็ชื่นชมธรรมชาติแถวนั้นกันพักใหญ่ค่ะ เด็กเล็กก็เล่นแช่น้ำนิดๆหน่อยๆพอหอมปากหอมคอ







แม่กั้งของพี่ซี แม่งานของเรา


แม่เก๋ของน้องแก้มพวง


แก้มพวง พี่เคน พี่ซี


อะไรบางอย่างที่แม่เก๋เรียกให้ดูมากมายบนกิ่งไม้ ตอนแรกคิดว่าเป็นส่วนของต้นไม้กัน แต่พอพิสูจน์ใกล้ จับๆบีบๆดูแล้ว และน้าเกรียงมาคอนเฟิร์ม ถึงรู้ว่าพวกมันคือดักแด้ของผีเสื้อค่ะ 




ตัวต่อแตนอะไรซักอย่าง ลายสวยมากเลย





เจ้านี่เป็นแมลงวันที่ปลอมตัวเป็นผึ้งค่ะ นัยว่าจะได้ไม่มีใครมาตอแย


ต้นขี้กา ลูกขี้กาที่แสนสวย แต่ไส้ในของมัน ทั้งเหม็นเขียว ลื่นๆ เมือกๆ แหยะๆ และขมสุดๆ




หลังจากนั้น เราก็แวะทานข้าวกลางวันร่วมกันเป็นมื้อสุดท้ายที่ร้านลุงวิทย์ แวะร้านกาแฟ และตลาดชาวบ้านที่ขายพืชผักผลไม้บนดอยนั้น เราซื้อข้าวดอยมาด้วย หุงแล้วนุ่มอร่อยมากค่ะ คล้ายๆข้าวญี่ปุ่น มียอดผักแม้วหวานกรอบ และอโวคาโด 4 โลร้อย ที่อร่อยใช้ได้เลยค่ะ แล้วก็แยกกันเดินทางกลับบ้านใครบ้านมัน เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หยาดเหงื่อ และมิตรภาพดีๆ ทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ แล้วเจอกันใหม่น้า บายจ้า...

No comments:

Post a Comment