Monday, April 23, 2012

ค่ายอยู่กับธรรมชาติ ตอน ลูกนกหัดบิน 2

โอเช มาต่อกันจาก ตอนที่แล้ว นะจ๊ะ

เช้าวันรุ่งขึ้น ถึงคราวกลุ่มซันไปเป็นเด็กวัด ตามหลวงปู่ไปบิณฑบาตรค่ะ บรรยากาศยามเช้าสดชื่นมาก แต่เมื่อถึงคราวออกจากโซนลูกรังและเริ่มถอดรองเท้าเดินกันเท่านั้น สักพักก็เริ่มมีเสียงโอดครวญจากความเจ็บเท้า และสปีดตกลงเรื่อยๆ ต้องขอชื่นชมหลวงปู่ และเด็กๆบางคนในกลุ่มที่เดินได้อย่างไม่ย่อท้อ และไม่บ่นเลยซักคำ (ยืนยันว่าเจ็บ "มาก" ค่ะ ขนาดเราเป็นผู้ใหญ่ พยายามเดินอย่างมีสติดูเวทนาที่เกิดขึ้น ยังทนได้ยากเลย เหมาะร้องเพลงขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึกมั่กๆ) น้องกัสเดินไปร้องไห้ไป แต่ก็กัดฟันอดทน ไม่ยอมใส่รองเท้า ใจเพชรจริงๆลูก ส่วนพี่ซัน เดินได้ค่อนทางก็ถอดใจ ขอรองเท้าแม่ไปใส่ หน้าระรื่นเชียว พูดอยู่คำเดียวว่า โตขึ้นซันจะไม่บวชเด็ดขาด โธ่..เป็นงั้นไป





วิวน่ารักระหว่างทาง




วันนี้ทั้งวันเราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแบบธรรมชาติ ได้ลองกลั้วคอ ล้างจมูก กันด้วยน้ำเกลือผสมน้ำมะนาว ปกติแม่เคยล้างจมูกด้วยน้ำเกลือและหลอดฉีดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะค่ะ มีการตวงน้ำ ตวงเกลือกันเป๊ะๆ เพื่อความปลอดภัยและลดการแสบจมูก แต่งานนี้ใช้กะเอาค่ะ แถมมีมะนาวด้วย น้องซันขอทำเฉพาะล้างคอ และก็เล่นซะมากกว่าค่ะ ก็ไม่ว่ากันจ้า





สามเพื่อนซี้รุ่นเดียวกัน น้องซัน น้องพีพี กะ น้องพีพี (เลยต้องเรียกให้ต่างเป็น พีภณ เพราะมีพี่ชื่อพี่ภณ)


สกปรกมาก ล้างให้หมดทุกรู อิอิ


น้องต้นกล้าลูกพ่อเอก สาธิตอย่างเชี่ยวชาญ


ใครใจไม่ถึงก็กลั้วคออย่างเดียว (ซันนี่คนนึงล่ะ)



นอกจากนี้ก็ยังมีการทำยาดมด้วยตัวเองจากสมุนไพรต่างๆและเมนทอล หอมชื่นใจดีแท้ และเรียนรู้และลองขูดกัวซาขับพิษทางผิวหนังด้วยค่ะ นายแบบนางแบบกิติมศักดิ์เพียบ





 น้องโมกข์จะรักษาครูโกะเองค้าบ


เด็กไม่ตั้งใจเรียน แต่ตั้งใจเล่น มาก!


ตกบ่ายเราก็ทำการพอกดิน อบ แช่สมุนไพรกันสนุกไปเลยค่ะ แบ่งกลุ่มกันไปหาวัตถุดิบแล้วก็เอามาทุบ สับ ต้ม กันอย่างเมามันส์

อย่างแรก ย่านางพาไปหาสมุนไพรมานอนย่างตัวกันค่ะ มีอะไรบ้างก็จำไม่ค่อยไม่ได้ซะแล้ว เอามาวางไว้บนแคร่ไม้ไผ่ที่ทำมาเฉพาะ รุมไฟจากเตาถ่านไว้ใต้เตียง นอนแล้วอุ่นสบายมากเลยจ้า



ก่อนนอนทับ ก็ปูใบตองซะก่อน




อีกกลุ่มไปขุดเอาดินจอมปลวกมากันค่ะ เอาแต่ผิวนอกๆ ไม่เอาลึกจนถึงรังมันนะ แล้วก็เอามาทุบ บดจนละเอียด ผสมน้ำเป็นโคลนสุดพิเศษ ให้ความเย็นสุดๆ สามารถดูดความร้อนและพิษออกจากผิวได้ เริ่ดมากค่ะ เย็นผิวมากกกกก ล้างออกแล้วผิวนุ่มเนียนขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ จริงๆนะ





แฟรี่ขอลองคนแรก


พี่ภณก็เอาด้วยจ้า


พอกหัวโล่งเย็นสบาย แก้ปวดหัวได้ดีมาก


ในขณะรอโคลนแห้ง ก็นั่งแช่มือแช่เท้าไปพลางๆในน้ำต้มสมุนไพรอุ่นจัด spa แบบบ้านๆน่ารักเชียว



กระทะต้มสมุนไพร เห็นแล้วนึกถึงกระทะทองแดงไงไม่รู้ อิอิ 




ช่วงเวลาระหว่างกิจกรรมหลักๆ ก็จะมีกิจกรรมวงกลม เกมส์ โยคะ creative play ต่างๆ มากมายที่ครูโกะพาเด็กๆให้สนุกร่วมกันค่ะ







jiberlish สุดฮา ของคู่ดูโอ Sunny and Sunday



น้องกัส ข้ามรุ่นมาฮากะเค้าด้วย



ค่ำๆก็ตั้งวง slave และเขียนบันทึกกัน



คืนนี้ตอนทานข้าวเย็นกัน ฝนตกหนักมากๆ เราไหวตัวทันช่วงที่เริ่มลงเม็ด วิ่งกลับไปที่บ้านทัน ส่วนคนอื่นๆก็ไปรวมตัวกันที่ศาลาไม้ไผ่ ไฟดับ เด็กๆต้องอยู่ในความมืด และจุดตะเกียงล้อมวงกันไว้ โดยมีครูโกะดูแล และไปนอนรวมกันหมดในบ้านเดียว เป็นประสบการณ์สุดพิเศษจริงๆ


เช้านี้ตื่นมาพบว่าข้าวในนาล้มระเนระนาดไปพอสมควรค่ะ เนื่องจากพายุเมื่อคืน แต่คาดว่าแถบที่ต้นยังไม่โตมาก ก็จะลุกขึ้นตั้งใหม่ได้ในไม่ช้าค่ะ



พบเพื่อนตัวน้อยกลางทางเดิน


เดินย่ำโคลนเล่น หยุ่นๆเย็นๆ สนุกดีค่ะ




กิจกรรมวันนี้จะเป็นการทาสีบ้านดินค่ะ จะเรียกว่าทาสีก็ไม่เชิง พ่อเอกเอาแป้งเปียกมากวนกับทรายแม่น้ำ ได้ส่วนผสมสำหรับไปทาผนังของบ้านดินที่ด่างถลอกหรือชำรุดอะค่ะ เป็นสีทรายแดงๆแบบธรรมชาติๆ งานนี้ใช้มือเปล่าๆต่างแปรงทาสีกันเลย ก็สากๆ เจ็บมือนิดหน่อย น้องซันทาอยู่แป๊บเดียวก็เลิก อาจเป็นเพราะเราไม่ได้บอกเด็กๆถึงเป้าหมายของงาน ทำแค่ไหน ทำทำไม พอเล่นหายสนุกก็ไม่สนใจกันแล้ว เป็นบทเรียนที่ดีอันหนึ่งค่ะ




ช่วงบ่ายระหว่างรอแดดร่มลมตกสักหน่อย เราก็เอาเนื้อมะพร้าวที่เหลือจากการกินน้ำมะพร้าวมากมาย มาให้เด็กๆทำขนมกันค่ะ เป็นขนมเทียน หรือที่ทางเหนือเรียกขนมจ๊อก เอามาผัดกับน้ำตาล ทำเป็นไส้ในแป้ง ปั้นเป็นก้อนกลมๆ ห่อใบตองแล้วนำไปนึ่งค่ะ



เด็กๆมีเวลาพักผ่อน เล่นกันสบายๆตามอัธยาศัย



  
ในระหว่างค่ายนี่ น้องครามเป็นไข้ ล้มหมอนนอนเสื่อ (นัยว่าไม่อึหลายวัน) เพื่อนๆช่วยกันหาใบย่านางมาคั้นให้ดื่มถอนพิษร้อนกันสดๆ แต่ดูแล้วไม่รับรองว่าหายไข้แต่จะจู๊ดๆกันแทนรึเปล่าเนี่ยสิ 555


ขยี้กันจนเหลือแต่เส้นใยแบบนี้เลย


แล้วก็มาถึงกิจกรรมที่ทุกคนรอคอย เราจะไปทำนาโยนกันจ้า ต้องไถซะก่อน แล้วก็ปล่อยน้ำออกให้ได้ระดับ แล้วก็ถอนต้นกล้าที่เพาะไว้พร้อมตุ้มดินน้อยๆ ใส่ถังเตรียมพร้อม




 

สามหนุ่มมุมเดียวกัน :)


ตอนนี้ยังลงไปเดินเล่นได้ แต่หลังจากโยนนาแล้วลงไม่ได้แล้วนะจ๊ะ




เอาล่ะ! พยายามโยนให้แต่ละต้นแยกกันนะจ๊ะ พร้อมแล้วก็ ไปเล้ยยยยยยยยยยย!!! เย้...ต้นข้าวน้อยๆพร้อมตุ้มถ่วงลอยละลิ่วไปตกปุ๊ตั้งตรงกลางนาเลย เราจะเริ่มจากตรงกลางก่อน แล้วค่อยๆไล่มาริมๆ งานนี้ต้องใช้ฝีมือและการเล็งกันเล็กน้อย ทั้งโยน ทั้งเขวี้ยง ทั้งปา ทั้งทอย ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่กินกันไม่ลงจริงๆ สนุกสนานกันมากมาย





ครูโกะไม่โยนเหรอค้าาาา สนุกนะ...


ในที่สุดก็ปลูกข้าวกันเสร็จทั้งสองแปลง เป็นชาวนานี่ก็ไม่ยากเท่าไหร่แฮะ หุหุ วันนี้หลังจากทำนาโยนเสร็จเด็กๆก็ไปเล่นน้ำกันอีกเช่นเคย แล้ววันรุ่งขึ้นเราก็มีกิจกรรมวงกลมกัน อำลาอาลัย เขียนบันทึก เขียนโน้ตให้กัน และสรุปค่าย เก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน เศร้าอะ :(






รถสองแถวมารับ ออกเดินทางบ่ายสามโมง สลบเหมือดกันเป็นแถว


น้องซันไม่ได้กลับกรุงเทพฯกับเพื่อนๆด้วย บ่นไม่หยุดเลย เพราะติดใจอยากไปเล่นสนุกบนรถไฟกันอีก แต่เรามีทริปต่อไปปายค่ะ ก่อนจะกลับมาเล่นสงกรานต์ที่เชียงใหม่ และนั่งรถไฟกลับในวันที่ 14 เมษานี้ (ทริปปายหน้าร้อน click here)

ขากลับครูโกะลงมาส่งทุกๆคนที่กรุงเทพฯ ขบวนรถนอน ​JR ได้นั่งติดกันทั้งหมด ได้ข่าวว่าสนุกกันสุดเหวี่ยง แถมมีดินนเนอร์เป็นข้าวผัดห่อใบตองหอมอร่อยจากค่าย ไปยั่วน้ำลายคนบนรถไฟด้วย


ลาก่อนนะ ลูกนกทั้งหลาย ปีหน้าฟ้าใหม่ พบกันอีกครั้ง ณ บ้านสวนสายลมจอยนะจ๊ะ จิ๊บๆ.....

1 comment:

  1. จิ๊บๆ....ฮิฮิ

    เก่งจังค่ะ จบได้ภายใน 2 ตอน ฮ่า..........

    ReplyDelete